สรุปไฮไลท์จากงาน Google Marketing Live 2022

หลังจากผ่านพ้นงาน Google I/O 2022 ไป ก็ถึงเวลาของงาน Google Marketing Live 2022 ที่นับได้ว่าเป็นอีกหนึ่งงาน Live Event ใหญ่ประจำปีของกูเกิล เพื่อเปิดตัวผลิตภัณฑ์ต่างๆ สำหรับนักการตลาดหรือแบรนด์ ซึ่งในปีนี้กูเกิลก็ได้ฤกษ์จัดงานขึ้นในวันที่ 24 พฤษภาคมที่ผ่านมา โดยจัดเป็นรูปแบบ Digital Event ภายในงานได้มี Featured Speakers คนดังของกูเกิลเข้ามาร่วมงานกันอย่างคับคั่ง โดยในบทความนี้ได้รวบรวมไฮไลท์เด็ดของงานโดยย่อมาให้อ่านกัน ถ้าพร้อมแล้วไปดูกันเลย

ส่วนอัปเดตเกี่ยวกับ Video Ads 

ในส่วนของ Video Ads กูเกิลได้เผยรายละเอียดการอัปเดตต่างๆ ที่กำลังจะเข้ามาไม่ว่าจะเป็น…

จะมี Ads มากขึ้นบน YouTube Shorts

กูเกิลประกาศแล้วว่านับจากนี้ วิดีโอแคมเปญและแอปแคมเปญจะสามารถแสดงผลโฆษณาบน YouTube Short ได้แล้วทั่วโลก ต้องบอกว่าเป็นผลต่อเนื่องมาจากความสำเร็จที่ YouTube แสดงให้เห็นว่าถึงแม้แพลตฟอร์มแชร์วิดีโอขนาดสั้นอย่าง TikTok จะมาแรงจนขึ้นมาแย่งส่วนแบ่งทางการตลาดไปค่อนข้างมาก แต่ภาพรวมก็ต้องบอกว่า ทาง YouTube ก็ยังสวนหมัดแย๊บกลับไปได้แบบแรงดีไม่มีตก ถ้าเปรียบเป็นมวยก็เหมือนนั่งดูปาเกียวปะทะกับฟลอยด์เลยทีเดียว โดยเฉพาะฟีเจอร์ Short ที่ถูกเพิ่มเติมเข้ามาใหม่นี้ทำให้ YouTube พลิกเกมกลับมาเป็นผู้นำแพลตฟอร์มแชร์วิดีโออีกครั้ง (YouTube Short มียอดรับชมทะลุ 30พันล้านวิว อ่านได้ที่นี่) 

จะมี Short Video Ads บน Google Discovery

กูเกิลกำลังสำรวจวิธีการนำโฆษณาวิดีโอขนาดสั้น เข้ามาสู่ Google Discovery โดย Google Discover คือ Feed แสดงเนื้อหาต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับผู้ใช้งานโดยตรง โดยอิงจากสิ่งที่ผู้ใช้ชอบค้นหาหรือสนใจ โดยนำเสนอในรูปแบบของบทความ รูปภาพ และวิดีโอ 

Display & Video 360 สามารถแสดงผลบนอุปกรณ์ทีวีได้แล้ว

สำหรับใครที่กังวลกับการรันวิดีโอแคมเปญผ่าน Display Network อยู่ กูเกิลออกมาเผยแล้วว่าเร็วๆ นี้ นักการตลาดจะสามารถใช้เครื่องมือจัดการแคมเปญที่ทรงพลังอย่าง DV360 ที่จะสามารถรันแคมเปญบนอุปกรณ์ทีวีได้แล้วเพื่อเป็นการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายให้มากขึ้น 

ความก้าวหน้าที่เพิ่มมากขึ้นของระบบ Automation

กูเกิลได้เผยถึงความก้าวของระบบ Automation ที่จะเข้ามาช่วยให้การทำงานของนักการตลาดทำงานอย่างลื่นไหลมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น

อัปเดตเพิ่มเติมบน Performance Max Campaigns

นักการตลาดหลายคนคงได้ลองใช้กันไปแล้วบ้างกับ “Performance Max” ซึ่งเป็นเครื่องมือตัวใหม่ล่าสุดที่จะเข้ามาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้กับการสร้างโฆษณาด้วยการใช้ Machine Learning เข้ามาช่วยในการค้นหากลุ่มเป้าหมายและสามารถสร้างโฆษณาแบบอัตโนมัติได้ แถมยังกระจายไปทุกแพลตฟอร์มในการกดเพียงครั้งเดียว นับตั้งแต่เปิดตัวเครื่องมือใหม่นี้ กูเกิลก็ได้ทยอยปล่อยอัปเดตใหม่เข้ามาอยู่เรื่อยๆ และแน่นอนว่าในงานนี้กูเกิลก็ได้เผยฟีเจอร์ต่างๆ ที่จะถูกทยอยเพิ่มเข้ามาภายในปีนี้ ไม่ว่าจะเป็น

• A/B Testing
• ขยายการจัดการแคมเปญใน Search Ads 360 และ Google Ads Mobile App
• สามารถเพิ่มประสิทธิภาพสำหรับการขายแบบ In-Store ได้
• ข้อมูลเชิงลึกใหม่ๆ เช่น การระบุแหล่งที่มา, กลุ่ม Audience และข้อมูลเกี่ยวกับการประมูลโฆษณา

อัปเดตใหม่สำหรับฟีเจอร์ Insights Page

ในงานนี้กูเกิลได้เปิดเผยว่า จะเปิดตัวฟังก์ชันรายงานสามอย่างเพิ่มเติมในหน้า Insights Pages ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า โดยรายละเอียดของฟังก์ชันใหม่ มีดังนี้

• Attribution Insights ตรวจสอบการทำงานของโฆษณาว่ามีประสิทธิภาพอย่างไรในแพลตฟอร์มต่างๆ ของกูเกิล
• Budget Insights ตรวจสอบข้อมูลเชิงลึกใหม่ๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในเรื่องงบประมาณในการสร้างแคมเปญโฆษณา
• Audience Insights ตรวจสอบข้อมูลเชิงลึกของกลุ่ม Audience ต่างๆ ได้ 

ปรับปรุงประสิทธิภาพสำหรับ Responsive Search Ads

กูเกิลกำลังจะเปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ปลายปีนี้บน Responsive Search Ads โดยสามารถสร้างเนื้อหาโฆษณาขึ้นโดยอัตโนมัติโดยจะอิงเนื้อหาจากหน้า Landing Page และ Asset ที่มีอยู่ (คล้ายการสร้างวิดีโอใน Performance Max Campaign)  

Responsive Display Ads รองรับการแสดงผลรูปภาพแนวตั้งแล้ว

สำหรับการอัปเดตใหม่นี้จะช่วยให้นักการตลาดมีความหลากหลายในการแสดงผลโฆษณาบนอุปกรณ์มือถือได้มากขึ้น โดยจะเป็นการเพิ่มประสบการณ์ใหม่ๆ ให้กับผู้ใช้งานมากขึ้น จะเห็นได้ว่าก่อนหน้านี้ขนาดของรูปภาพที่ใช้กับ RDAs จะมีเพียงแค่รูป Square และ Lanscape เท่านั้น แต่ในตอนนี้กูเกิลจะช่วยให้นักการตลาดสามารถแสดงโฆษณาแบบแนวตั้งเต็มหน้าจอได้ 

ปรับปรุงไลบรารี Asset ใหม่ทั้งหมด

หากใครที่ต้องการแรงบันดาลใจในการสร้างโฆษณา กูเกิลก็มีเครื่องมือ Creative Inspiration ที่เปรียบเสมือนคลังความคิดสร้างสรรค์ที่จะช่วยกรองโฆษณาต่างๆ จากทั่วทุกมุมโลก โดยผู้ใช้งานสามารถใช้ฟังก์ชัน Filter เพื่อกรอง “Ad Format” ได้ตามที่ต้องการ 

Optimization Score จะครอบคลุมทุกแคมเปญโฆษณา

สำหรับคะแนนประสิทธิภาพของแคมเปญโฆษณาหรือที่เรียกว่า “Optimization Score” จะถูกขยายให้ครอบคลุมทุกประเภทแคมเปญโฆษณามากขึ้น 

ฟีเจอร์ใหม่ๆ เพิ่มเติม

นอกจากนี้กูเกิลยังประกาศเปิดตัวฟีเจอร์ที่ถูกออกแบบมาสำหรับ “ความยืดหยุ่นในอนาคตของโลกการตลาด” ไม่ว่าจะเป็น

• Conversion Life Tests เป็นฟีเจอร์ที่จะช่วยให้นักการตลาดสามารถการวัด Conversion ที่เพิ่มขึ้นโดยอิงจาก User และ Geography  
• Search Lift Tests เป็นฟีเจอร์ที่จะสามารถวัดผลกระทบที่เกิดขึ้นบน YouTube Campaigns ที่เกิดจาก Organic Search บน Google และ YouTube
• Google Tag จะเป็นฟีเจอร์ที่ช่วยให้แท็กที่ติดทั่วเว็บไซต์หรือ Global Site Tag กลายเป็นส่วนหนึ่งของ Google Tag และจะสามารถรับการอัปเดตเพิ่มเติมต่างๆ ได้ในอนาคต
• My Ad Center จะเป็นฟีเจอร์สำหรับผู้ใช้งานทั่วไป โดยจะสามารถเลือกประเภทของโฆษณาที่ต้องการลดการมองเห็นให้น้อยลงได้

รับปรึกษาการทำ Digital Marketing ที่ Relevant Audience

Relevant Audience บริษัทที่ให้บริการเกี่ยวกับ Digital Performance Marketing Agency โดยมีเป้าหมายหลักเพื่อให้บริการด้านการตลาดดิจิทัล ให้ธุรกิจเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่กำลังมองหาผลิตภัณฑ์หรือบริการในเวลา สถานที่ และอุปกรณ์ที่เหมาะสม ผ่านช่องทางออนไลน์ต่างๆ บริการของเราครอบคลุมทั้ง Search Marketing, Social Media Ads, Search Ads และ SEO (Search Engine Optimization) ไปจนถึง Influencer Marketing และยังเป็นส่วนหนึ่งในโปรแกรม Google Partners อีกด้วย

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม 

โทร.: 02-038-5055 

อีเมล: info@relevantaudience.com เว็บไซต์: www.relevantaudience.com