จากการประกาศล่าสุดใน Meta Blog Post ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของ Facebook ได้ออกมาระบุถึงการประกาศยกเลิกฟีเจอร์ “Live Shopping” ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม เป็นต้นไป โดยให้เหตุผลว่าพฤติกรรมของผู้ใช้งานในปัจจุบันมีการเปลี่ยนแปลง โดยเริ่มหันไปนิยมเสพวิดีโอคอนเทนต์ขนาดสั้นกันมากขึ้น ทำให้ Facebook ต้องการที่จะไปโฟกัสกับ Facebook Reels แทน รายละเอียดทั้งหมดจะเป็นอย่างไร นักการตลาดยุคใหม่ต้องห้ามพลาด ถ้าพร้อมแล้ว ไปดูกันเลย
ยุติการให้บริการฟีเจอร์ Live Shopping
สำหรับฟีเจอร์ Live Shopping บน Facebook เป็นฟีเจอร์ที่ถูกออกแบบและพัฒนามาให้ผู้ใช้งานที่ต้องการขายของออนไลน์สามารถทำได้ง่ายขึ้น โดยจะเป็นการส่งเสริมให้ผู้ใช้งานสามารถไลฟ์สดเพื่อตอบโต้กับผู้ชมได้แบบเรียลไทม์ในการขายสินค้าหรือบริการบนแพลตฟอร์ม และยังสามารถใช้ฟังก์ชันเสริมต่างๆ เพื่อสร้างอีเวนท์ในการกระตุ้นให้ผู้รับชมรู้สึกสนใจสินค้าหรือบริการมากขึ้น
Facebook ได้เริ่มทดสอบฟีเจอร์ Live Shopping นี้มาตั้งแต่ปี 2018 จนเริ่มตัดสินใจเปิดให้ผู้ใช้งานแบบเต็มรูปแบบในปี 2020 และมีการสนับสนุนกลุ่มผู้ใช้งานที่เป็นพ่อค้าแม่ค้าบนแพลตฟอร์มอยู่เรื่อยมา จนกระทั่งเทรนด์วิดีโอขนาดสั้นที่เริ่มเข้ามามีบทบาทมากขึ้น ทำให้ Meta ตัดสินใจที่จะยุติการให้บริการฟีเจอร์ Live Shopping ภายในวันที่ 1 ตุลาคมนี้ แต่อย่างไรก็ตามผู้ใช้งานยังสามารถใช้งานฟีเจอร์ Facebook Live หรือการไลฟ์ถ่ายทอดสดได้ตามปกติ เพียงแต่จะไม่สามารถใช้งานฟังก์ชันต่างๆ อย่างการสร้าง Product Playlists หรือ การ Tag Product ได้ นั่นหมายความว่าหากผู้ใช้งานต้องการที่จะโปรโมตสินค้าหรือบริการอาจจะต้องมองหาช่องทางอื่นแทน เช่น การซื้อโฆษณาผ่านรูปแบบ Display Ads หรืออื่นๆ เป็นต้น
Meta จะโฟกัสกับ Reels มากขึ้น
ในการตัดสินใจครั้งนี้ของ Meta หนึ่งในเหตุผลหลักที่ปฏิเสธไม่ได้นั่นคือกระแสนิยมการบริโภควิดีโอคอนเทนต์ขนาดสั้นของผู้ใช้งานที่เพิ่มมากขึ้น ทำให้ Facebook ต้องการเวลาเพื่อไปโฟกัสการพัฒนา Facebook Reels เพื่อให้ทันคู่แข่งในตลาดอย่าง TikTok หรือ YouTube Short
โดย Facebook กล่าวว่า “เรากำลังโฟกัสไปที่ Reels ทั้งบน Facebook และ Instagram ซึ่งเป็นฟีเจอร์ที่สนับสนุนวิดีโอคอนเทนต์ขนาดสั้นให้มากขึ้น หากใครที่ต้องการเข้าถึงและมีส่วนร่วมกับผู้ใช้งาน ก็สามารถใช้งาน Reels หรือ Reels Ads ทั้งบน Facebook และ Instagram ได้ทันที”
Business Insider ให้ความเห็นที่น่าสนใจเอาไว้ว่า นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ Meta ตัดสินใจที่จะยกเลิกบริการหรือฟีเจอร์ที่เป็นตัวช่วยในการอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ใช้งานบนแพลตฟอร์มของตนเอง อย่างในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมาบน Instagram เช่นฟีเจอร์ Reels Play Bonus และอื่นๆ เป็นต้น
ต้องบอกว่าในช่วงนี้แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียต่างๆ เริ่มมีการเดินเกมกันอย่างหลากหลาย มีทั้งเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ๆ รวมไปถึงการปรับลดบางฟีเจอร์ลงเพื่อเพิ่มเวลาในการโฟกัสหรือพัฒนาฟีเจอร์อื่นๆ ที่ดูแล้วจะเหมาะสมกับผู้บริโภคยุคใหม่มากขึ้น สำหรับนักการตลาดหรือแบรนด์ที่กำลังมองหาช่องทางการทำการตลาดออนไลน์ก็ต้องรอดูท่าทีเหล่านี้ให้ดี เพื่อให้แน่ใจว่าแผนกลยุทธ์การตลาดของตัวเองจะไม่ผิดพลาด
รับปรึกษาการทำ Digital Marketing ที่ Relevant Audience
Relevant Audience บริษัทที่ให้บริการเกี่ยวกับ Digital Performance Marketing Agency โดยมีเป้าหมายหลักเพื่อให้บริการด้านการตลาดดิจิทัล ให้ธุรกิจเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่กำลังมองหาผลิตภัณฑ์หรือบริการในเวลา สถานที่ และอุปกรณ์ที่เหมาะสม ผ่านช่องทางออนไลน์ต่างๆ บริการของเราครอบคลุมทั้ง Search Marketing, Social Media Ads, Search Ads และ SEO (Search Engine Optimization) ไปจนถึง Influencer Marketing และยังเป็นส่วนหนึ่งในโปรแกรม Google Partners อีกด้วย
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
โทร.: 02-038-5055
อีเมล: info@relevantaudience.com
เว็บไซต์: www.relevantaudience.com