เจาะลึกฟีเจอร์ใหม่ของ Google Shopping จากงาน Search On 22

“การช้อปปิ้งไม่ใช่แค่การซื้อเท่านั้น (Shopping isn’t about Buying)” ใครที่เป็นสายช้อปปิ้งคงรู้กันดีว่าความสุขในการซื้อของออนไลน์คือการได้เลือก ได้ศึกษาหาข้อมูล ค้นคว้าเปรียบเทียบเพื่อให้แน่ใจว่าจะได้ของหรือสินค้าที่มีความเหมาะสมทั้งในเรื่องของราคาและความชอบมากที่สุด 

แน่นอนว่ากูเกิลเข้าใจในเรื่องนี้เป็นอย่างดีทำให้ในงาน Search On 22 กูเกิลจึงไม่พลาดที่จะประกาศ 9 ฟีเจอร์ใหม่บน Google Shopping ที่จะเป็นการมอบประสบการณ์การช้อปปิ้งให้กับผู้ใช้งานให้สะดวกสบายและมีความเป็นส่วนตัวมากขึ้น อยากรู้ว่ารายละเอียดเป็นอย่างไร Relevant Audience จะพาทุกคนไปเจาะลึกทุกฟีเจอร์กัน ถ้าพร้อมแล้วไปดูกันเลย

มอบประสบการณ์การช้อปปิ้งมากขึ้น

1. ค้นหาด้วยคำว่า “Shop”

สำหรับฟีเจอร์แรกที่กูเกิลได้อัปเดตให้กับ Google Shoping คือการปลดล็อกประสบการณ์การช้อปปิ้งให้สะดวกรวดเร็วขึ้นเพียงแค่ใส่คำว่า Shopping จากนั้นตามด้วยหมวดหมู่ Category ของสินค้าที่ต้องการลงไปในช่องค้นหา โดยสามารถเลือกช็อปปิ้งได้ในทุกหมวดหมู่ ตั้งแต่อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เสื้อผ้า ไปจนถึงผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง อย่างไรก็ตามในตอนนี้ฟีเจอร์นี้ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้นจึงสามารถใช้งานได้ภายในสหรัฐอเมริกาเท่านั้นแต่จะมีการอัปเดตไปให้ภูมิภาคอื่นได้ใช้งานด้วยแน่นอน

2. ปรับลุคง่ายๆ ด้วย “Shop the look”

ใครที่เป็นสายแฟชั่น คงรู้สึกหงุดหงิดเวลาที่อยากซื้อเสื้อผ้าแต่ยังมีความลังเลว่าชุดเสื้อผ้าที่ซื้อมาจะเหมาะสมจริงๆ หรือเปล่า ในตอนนี้หากคุณเลือกซื้อผ่าน Google Shopping จะเป็นเรื่องที่ง่ายมากขึ้นด้วยฟีเจอร์ Shop The Look ที่จะถูกแบ่งส่วนออกมาจากหน้าค้นหาสินค้าเพื่อช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถทดลองดูสินค้าต่างๆ  ก่อน เพื่อค้นหาชุดเสื้อผ้าที่เหมาะสมมากที่สุด

3. เช็กเทรนด์ใหม่มาแรง

เดี๋ยวนี้อะไรๆ ก็ต้องตามกระแส โดยเฉพาะในเรื่องของแฟชั่นเครื่องแต่งกาย ด้วยเหตุนี้ Google Shopping จึงมีการอัปเดตฟีเจอร์ Trending Product ที่จะช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถดูว่าในตอนนี้มีสินค้าอะไรที่กำลังไดรับความนิยมอยู่ภายในหมวดหมู่นั้นๆ เพียงเท่านี้ก็ช่วยให้คุณไม่ตกเทรนด์ได้แล้ว

4. ช็อปปิ้งแบบ 3D

เทคโนโลยีใหม่จากกูเกิลที่จะช่วยให้การสร้างภาพ 3 มิติ เป็นเรื่องที่ง่ายและลดต้นทุนในการสร้างได้ดีกว่าเดิม จากเมื่อก่อนการสร้างภาพ 3D Visual จะต้องใช้ภาพถ่ายสินค้าหลายร้อยภาพ ทำให้อาจมีต้นทุนที่สูงกลายเป็นส่งผลเสียต่อร้านค้าแทน แต่ในตอนนี้กูเกิลมีเทคโนโลยีใหม่ที่พร้อมเปิดตัวในเดือนหน้าโดยเคลมว่าสามารถสร้างโมเดล 3D จากการใช้ภาพนิ่งเพียงไม่กี่ภาพ โดยสามารถหมุนสินค้าหรือวัตถุได้ถึง 360 องศา เหมาะสำหรับร้านค้าที่ต้องการเพิ่มประสบการณ์ช้อปปิ้งใหม่ๆ ให้กับลูกค้าได้นำไปใช้ โดยฟีเจอร์นี้จะพร้อมให้ใช้งานในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้านี้

ตัวช่วยอัจฉริยะ

5. Buying Guide 

ในการเลือกซื้อสินค้าบางอย่างอาจมีความยุ่งยากที่จำเป็นต้องอาศัยข้อมูลหลายๆ อย่างเข้ามาช่วยในการตัดสินใจ ไม่ว่าจะเป็นการอ่านบทความ อ่านรีวิว กลายเป็นว่าเลือกซื้อของเพียงแค่หนึ่งอย่าง แต่หน้าเบราว์เซอร์เต็มไปด้วยแท็บต่างๆ นับร้อยหน้าต่าง โดยฟีเจอร์ที่ Google Shopping อัปเดตเพิ่มมาในครั้งนี้เรียกว่า Buying Guide ซึ่งจะเป็นการแบ่งปันข้อมูลเชิงลึกที่เป็นประโยชน์เกี่ยวกับสินค้านั้นๆ จากแหล่งข้อมูลที่มีความน่าเชื่อถือ โดยฟีเจอร์นี้เพิ่งถูกเปิดให้ใช้งานในสหรัฐอเมริกา โดยคาดว่าน่าจะมีการอัปเดตข้อมูลเชิงลึกในหมวดหมู่สินค้าประเภทต่างๆ เพิ่มขึ้นในเร็วๆ นี้ สำหรับผู้ใช้งานในภูมิภาคอื่นอาจจะต้องรอไปก่อน

6. ดูความคิดเห็นอื่นๆ ด้วย Page Insights

ข้อมูลเชิงลึกของเว็บไซต์อื่นๆ จะช่วยให้ผู้ซื้อตัดสินใจความเหมาะสมของสินค้าได้มั่นใจมากขึ้น เช่น ข้อดีและข้อเสีย เรตติ้งที่ได้รับ เป็นต้น โดยผู้ซื้อสามารถเลือกดูข้อมูลต่างๆ ได้อย่างง่ายดาย ไม่จำเป็นต้องเสียเวลาไปค้นหาข้อมูลเอง โดยการอัปเดตฟีเจอร์นี้จะถูกเปิดตัวให้ใช้งานในสหรัฐอเมริกาในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า

ประสบการณ์การช็อปปิ้งที่เป็นตัวคุณมากขึ้น

7. เลือกช้อปปิ้งแบบ Personalized มากขึ้น

เทรนด์การใช้ Big Data เพื่อทำการตลาดแบบ Personalized Marketing เป็นสิ่งสำคัญที่ขาดไปไม่ได้ในยุคนี้ เช่นเดียวกับประสบการณ์การช้อปปิ้งผ่าน Google Shopping ที่มีการใช้ข้อมูลต่างๆ อย่างพฤติกรรมการช็อปปิ้งในครั้งก่อนๆ มาใช้ในการนำเสนอสินค้าหรือผลิตภัณฑ์ที่ตรงใจผู้ซื้อมากยิ่งขึ้น โดยผู้ซื้อสามารถเปิดหรือปิดการตั้งค่าในส่วนนี้ได้ตลอดเวลาในหน้าการตั้งค่า “Shopping Personalization” สำหรับฟีเจอร์นี้จะถูกนำมาใช้ในสหรัฐอเมริกาช่วงปลายปีนี้

8. ฟิลเตอร์ Dynamic เฉพาะบุคคล

ใครที่เป็นสายช้อปปิ้งออนไลน์คงเคยใช้งานตัวกรองหรือฟิลเตอร์ที่เอาไว้ใช้กรองหมวดหมู่หรือประเภทของสินค้าที่ต้องการ แต่ฟิลเตอร์บน Google Shopping ที่ถูกอัปเดตใหม่ในครั้งนี้จะเป็นฟิลเตอร์แบบ Dynamic ที่มีการปรับเปลี่ยนไปตามเทรนด์ยอดนิยมแบบเรียลไทม์ เช่น หากคุณต้องการเลือกซื้อกางเกงยีน ตัวกรองอาจจะมีหมวดหมู่กางเกงยีนทรงกระบอก หรือทรงอื่นๆ ที่กำลังเป็นที่นิยมในขณะนั้น ถือเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้ซื้อได้เป็นอย่างดี โดยฟีเจอร์นี้พร้อมให้บริการในสหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น และอินเดีย ส่วนในภูมิภาคอื่นๆ จะมีการประกาศเพิ่มเติมในอนาคต

9. มองหาผลิตภัณฑ์ที่ต้องการใน Discovery

ต่อไปนี้การช้อปปิ้งออนไลน์จะไม่จบแค่เพียงแค่การเลือกดูสินค้าผ่านหน้าฟีดแคตตาล็อกอีกต่อไป แต่การใช้ฟังก์ชัน Discovery เพื่อมองหาแรงบันดาลใจใหม่ๆ ในการช้อปปิ้งก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยอำนวยความสะดวกสบายให้กับผู้ใช้ได้มากขึ้น โดยสามารถใช้ฟีเจอร์ Google Lens ช่วยในการค้นหาได้ทันทีว่าสินค้าที่คุณสนใจอยู่นั้นสามารถหาซื้อได้จากที่ไหน ถือว่าเป็นอีกฟีเจอร์ที่ดูแล้วเหมาะมากสำหรับใครที่ชอบเลื่อนหน้าฟีดไปเรื่อยๆ แล้วเจอสิ่งที่ถูกใจอยากซื้อของทันที จะได้ไม่เสียเวลามานั่งเซฟรูปภาพแล้วไปค้นหาเองอีกต่อไป 

ทิ้งท้าย

สะดวก รวดเร็วและแม่นยำ เป็นสามสิ่งที่ Google Shopping จะมอบประสบการณ์การช้อปปิ้งสุดแปลกใหม่ให้กับผู้ใช้งานได้เป็นอย่างดี เชื่อเหลือเกินว่าใครที่เป็นสายช็อปปิ้งออนไลน์คงต้องถูกอกถูกใจกันอย่างแน่นอน อย่างไรก็ตามสำหรับในประเทศไทยอาจจะต้องรอให้ฟีเจอร์เหล่านี้ถูกปล่อยให้ใช้งานในสหรัฐอเมริกากันก่อน แต่รับรองว่าอีกไม่นานกูเกิลน่าจะเริ่มปล่อยให้ผู้ใช้งานทั่วโลกได้สัมผัสประสบการณ์สุดแปลกใหม่นี้อย่างแน่นอน

รับปรึกษาการทำ Digital Marketing ที่ Relevant Audience

Relevant Audience บริษัทที่ให้บริการเกี่ยวกับ Digital Performance Marketing Agency โดยมีเป้าหมายหลักเพื่อให้บริการด้านการตลาดดิจิทัล ให้ธุรกิจเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่กำลังมองหาผลิตภัณฑ์หรือบริการในเวลา สถานที่ และอุปกรณ์ที่เหมาะสม ผ่านช่องทางออนไลน์ต่างๆ บริการของเราครอบคลุมทั้ง Search Marketing, Social Media Ads, Search Ads และ SEO (Search Engine Optimization) ไปจนถึง Influencer Marketing และยังเป็นส่วนหนึ่งในโปรแกรม Google Partners อีกด้วย

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม 

โทร.: 02-038-5055 

อีเมล: info@relevantaudience.com 

เว็บไซต์: www.relevantaudience.com