LinkedIn เป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียที่มีผู้ใช้งานมากถึง 850 ล้านคนทั่วโลก มากไปกว่านั้นยอด Organic Engagement บน แพลตฟอร์มยังสูงเอามากๆ เมื่อเทียบกับโซเชียลมีเดียอื่นๆ (รวมสถิติที่น่าสนใจบน LinkedIn ในปี 2023) ต้องยอมรับว่าในปัจจุบันการที่แบรนด์จะขยายการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายให้มากขึ้น การสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักในแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียถือเป็นอีกหนึ่งช่องทางที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก
ดังนั้นในบทความนี้ Relevant Audience จะขอมาแชร์เคล็ดลับการเพิ่มผู้ติดตามบน LinkedIn ที่จะช่วยให้แบรนด์แสดงถึงคุณภาพของเพจนั้นๆ อย่าลืมว่าข้อดีของยอด Follower มีมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการแสดงถึงความนิยม ความน่าเชื่อถือ และอื่นๆ อีกมากมาย ถ้าพร้อมแล้ว ไปดูกันเลย
1.ดึงดูด Traffic นอกแพลตฟอร์ม
สำหรับใครที่ยังไม่รู้ เราสามารถใช้แนวทางการทำ SEO บน LinkedIn ได้ เพื่อช่วยให้เกิด Search Demand จากภายนอกแพลตฟอร์ม ซึ่งจะช่วยให้เป็นการดึงดูดผู้คนในแพลตฟอร์มต่างๆ ให้คลิกเข้ามายังหน้าโปรไฟล์ของคุณมากขึ้น
โดยสามารถทำได้ง่ายๆ ทันที ด้วยการเพิ่มคีย์เวิร์ดลงไปในข้อมูลในส่วนของ “About” ของเพจโปรไฟล์ จากนั้นอย่าลืมกรอกรายละเอียดอื่นๆ เช่น ลิงก์เว็บไซต์ รายละเอียดอื่นๆ จากนั้นก็ให้อัปเดตคอนเทนต์ลงหน้าเพจ เพื่อนเป็นการกระตุ้นความสนใจของผู้ใช้งานทั่วไป
2.Be Sticky สร้างการจดจำ
ยกมาให้หมดไม่ว่าจะวิธีการใดก็ตามในการสร้างแบรนด์ให้เป็นที่จดจำในแบบที่ว่าใช้เวลาชำเลืองมองแค่ 3 วินาทีก็รู้ได้ทันทีว่าเพจนี้คืออะไร เกี่ยวกับอะไร โดยพื้นฐานแล้วมี 2 หลักการพื้นฐานที่สามารถนำมาปรับใช้ได้ทันที คือ
- Colour Theory หรือการใช้ทฤษฎีสีเข้าช่วย อันนี้ต้องบอกว่าแต่ละธุรกิจอาจจะต้องศึกษาที่มาที่ไปหรือตีโจทย์แบรนด์ของตัวเองให้แตกก่อน ว่าภาพลักษณ์เป็นอย่างไรจากนั้นถึงค่อยมาเริ่มศึกษาว่าจะใช้สีโทนไหน จะเลือกผสมสีหรือเน้นการคอนทราสต์ให้ดูแตกต่าง
- Symbolic Storytelling ในตอนนี้เชื่อว่าใครที่เห็น “แอปเปิ้ล” แทบทุกคนคงนึกถึงบริษัทแอปเปิลเจ้าของเทคโนโลยีสุดล้ำ ดังนั้นหากแบรนด์สามารถสร้างองค์ประกอบเหล่านี้ขึ้นมาไม่ว่าจะเป็นรูปภาพหรือตัวอักษร ก็จะช่วยให้การจดจำแบรนด์บนแพลตฟอร์มดีขึ้นแน่นอน
3.โพสต์เนื้อหาที่น่าสนใจอย่างสม่ำเสมอ
สำหรับข้อนี้จะใกล้เคียงกับการทำ SEO บนแพลตฟอร์ม เพราะการหมั่นอัปเดตหน้าเพจไม่ให้ร้าง ด้วยการโพสต์คอนเทนต์ที่น่าสนใจอย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้การมองเห็นเพจของคุณดีขึ้น ช่วยเพิ่มโอกาสได้รับ Organic Engagement ที่มากขึ้น
4.เน้น Video และ Visual Content
Visual และ Video Content สามารถสร้างความโดดเด่นในหน้าฟีดได้เป็นอย่างดี มีสถิติที่ระบุว่าคอนเทนต์ในรูปแบบวิดีโอจะถูกแชร์ไปมากกว่า 20 เท่า ซึ่งถือว่ามากกว่าคอนเทนต์รูปแบบอื่นๆ บน LinkedIn
5.คอนเทนต์ต้องดีมีคุณภาพ
ไม่ว่าจะเป็นการโพสต์คอนเทนต์ในรูปแบบใด นอกเหนือจากความสม่ำเสมอแล้วสิ่งสำคัญเลยก็คือทุกคอนเทนต์ต้องมีคุณภาพ ดังนี้
- คอนเทนต์ต้องมีความเกี่ยวข้อง อย่างแรกคือต้องรู้จักกลุ่มเป้าหมายของแบรนด์ก่อนว่าเป็นอย่างไร ช่วงอายุเป็นอย่างไร เพื่อเป็นการกำหนดวิธีการสร้างคอนเทนต์ให้แคบลง จากนั้นก็ให้เลือกใช้คีย์เวิร์ดที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มเป้าหมายเป็นหลัก เพราะคำเหล่านี้จะช่วยในการกระตุ้นให้เกิดความรู้สึกสนใจมากขึ้น
6.วิเคราะห์เพจคู่แข่ง-เพจดัง
อันนี้เป็นเทคนิคง่ายๆ ที่สามารถทำตามได้แบบทันที โดยเป็นการทำ Competitor Analysis คือการวิเคราะห์เพจคู่แข่งรวมไปถึงเพจดัง ที่อาจจะมีความคล้ายคลึงกับของเรา จากนั้นดูข้อดีข้อด้อยของเพจนั้นว่ามีอะไร ทำไมโพสต์นี้ถึงดูมี Engagement เยอะ หรือดู Mood&Tone ของคอนเทนต์ว่าเป็นอย่างไร และความสม่ำเสมอในการโพสต์มากน้อยแค่ไหน และช่วงเวลาไหนที่โพสต์บ่อยที่สุดหรือน้อยที่สุด เป็นต้น
ทิ้งท้าย
ทั้ง 6 ข้อข้างต้นนี้ก็เป็นทิปส์ที่สามารถทำตามได้แบบฟรีๆ ไม่เสียเงินสักบาท เพื่อเพิ่มยอดฟอลโลว์ให้กับเพจ LinkedIn ของคุณ อีกหนึ่งคำแนะนำคือ LinkedIn มีฟีเจอร์ที่เรียกว่า Creator Mode ที่เป็น Analytics Tools บนแพลตฟอร์ม ใครที่กำลังพิจารณา LinkedIn เป็นช่องทางในการทำการตลาดออนไลน์อยู่ ก็สามารถไปลองใช้ได้ทันที
รับปรึกษาการทำ Digital Marketing ที่ Relevant Audience
Relevant Audience บริษัทที่ให้บริการเกี่ยวกับ Digital Performance Marketing Agency โดยมีเป้าหมายหลักเพื่อให้บริการด้านการตลาดดิจิทัล ให้ธุรกิจเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่กำลังมองหาผลิตภัณฑ์หรือบริการในเวลา สถานที่ และอุปกรณ์ที่เหมาะสม ผ่านช่องทางออนไลน์ต่างๆ บริการของเราครอบคลุมทั้ง Search Marketing, Social Media Ads, Search Ads และ SEO (Search Engine Optimization) ไปจนถึง Influencer Marketing และยังเป็นส่วนหนึ่งในโปรแกรม Google Partners อีกด้วย
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
โทร.: 02-038-5055
อีเมล: info@relevantaudience.com
เว็บไซต์: www.relevantaudience.com