![Copy of Twitter Size [1200x675] (2)](https://relevantaudience.sg/wp-content/uploads/elementor/thumbs/Copy-of-Twitter-Size-1200x675-2-2-qwqnd3izzn6mwubpu614c03r5u33wd8ztme0aorlni.png "Copy of Twitter Size [1200×675] (2)")
เพื่อแก้ปัญหาการเข้าถึงบริการเฉพาะทางในด้านต่างๆ Microsoft Advertising ออกฟังก์ชันใหม่สำหรับการโฆษณา โดยในครั้งนี้ Microsoft ได้เพิ่มหมวดหมู่ใหม่ในการโฆษณาเข้ามา โดยเรียกว่า “Professional Service Ads” ในบทความนี้จะพาไปไขข้อสงสัยว่าฟังก์ชันใหม่ในการโฆษณาของ Microsoft มีลูกเล่นอะไรเพิ่มเติมและเป็นประโยชน์ต่อธุรกิจแบบ Service Provider อย่างไร? มาดูไปพร้อมกันเลย
Professional Service Ads คืออะไร ?
ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่าตอนนี้ในประเทศไทยคงยังไม่ได้เห็นฟังก์ชันใหม่นี้ของ Microsoft เพราะให้บริการเพียงแค่ที่สหรัฐอเมริกาและแคนาดาเท่านั้น โดยในฟังก์ชัน Professional Service Ads จะเป็นการให้บริการโฆษณาในรูปแบบใหม่ที่เหมาะกับคนที่ทำงานแบบ Service Provider ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญในแต่ละสาขาวิชาที่ต่างกันไป โดยเน้นการให้คำปรึกษาในเรื่องต่างๆ เช่น ประกัน อสังหาริมทรัพย์ และกฎหมาย เป็นต้น แน่นอนว่าไม่เพียงแต่การโฆษณาเฉพาะรายบุคคล สำหรับบริษัทหรือธุรกิจที่เป็นการให้บริการในลักษณะเดียวกันนี้ ก็สามารถที่จะโปรโมตบริษัทผ่านการโฆษณาแบบ Professional Service Ads ได้เช่นเดียวกัน
Microsoft เคลมว่า การสร้างโฆษณาแบบใหม่นี้เพื่อกลุ่ม Service Provider จะช่วยเพิ่ม Conversion Rates ได้มากถึง 60% เมื่อเทียบกับกับการโฆษณาแบบข้อความอย่างเดียว โดยหลักการทำงานของการโฆษณาแบบใหม่นี้ จะมาจากการที่ระบบจะสร้างข้อมูลเพื่อการโฆษณาโดยรวบรวมข้อมูลต่างๆ ใน Feed File ที่คนทำโฆษณากรอกรายละเอียดลงไป เช่น Plan Type, Organization Category และ Federal Registration Status เป็นต้น โดยระบบจะนำข้อมูลที่รวบรวมมาทั้งหมดมาโฆษณาให้ผู้ที่ต้องการได้คำปรึกษาจาก Service Provider แบบ Real-Time โดยการแสดงผลของโฆษณาแบบใหม่นี้จะปรากฏอยู่บริเวณด้านขวาในหน้า Search Result Page (SERP) ของ Bing Search
จะเห็นได้ว่าการยกระดับการโฆษณาให้ครอบคลุมทุกความต้องการของผู้บริโภคเป็นหนึ่งใน Solution ที่ Microsoft กำลังพยายามทำงานอย่างหนัก เพื่อให้ทันคู่แข่งในด้านการโฆษณาอย่าง Google เพราะในขณะที่ Microsoft มี Professional Service Ads ทางคู่แข่งอย่าง Google ก็มี Google’s Local Service Ads (LSAs) ซึ่งข้อแตกต่างที่เห็นได้ชัด คือ ความยุ่งยากในกระบวนการคัดกรองและความน่าเชื่อถือ เพราะ Google ระบุว่าหากใครที่จะลงโฆษณาในฟังก์ชันของ Google’s Local Service Ads จำเป็นต้องผ่านกระบวนการตรวจสอบความน่าเชื่อถือผ่านระบบของ Google ก่อนเสมอ คือ “Google Guaranteed” หรือ “Google Screened” ในขณะที่ Professional Service Ads ของ Microsoft ในตอนนี้ยังไม่พบว่ามีขั้นตอนในการตรวจสอบความน่าเชื่อถือแต่อย่างใด ถือได้ว่าเป็นการตัดทอนความยุ่งยากให้กับนักการตลาดดิจิทัลในการลงโฆษณาให้ง่ายขึ้น แน่นอนว่าสำหรับนักการตลาดดิจิทัลต้องมาคอยดูกันต่อไปว่าในอนาคตจะได้เห็นฟีเจอร์อะไรใหม่ๆ ของ Microsoft Advertising อีกบ้าง แต่หากคุณอยากลดความยุ่งยากในการโปรโมตแบรนด์ของคุณในโลกออนไลน์ ปรึกษาเราได้ที่ Relevant Audience
รับปรึกษาการทำ Digital Marketing ที่ Relevant Audience
Relevant Audience บริษัทที่ให้บริการเกี่ยวกับ Digital Performance Marketing Agency โดยมีเป้าหมายหลักเพื่อให้บริการด้านการตลาดดิจิทัล ให้ธุรกิจเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่กำลังมองหาผลิตภัณฑ์หรือบริการในเวลา สถานที่ และอุปกรณ์ที่เหมาะสม ผ่านช่องทางออนไลน์ต่างๆ บริการของเราครอบคลุมทั้ง Search Marketing, Social Media Ads, Search Ads และ SEO (Search Engine Optimization) ไปจนถึง Influencer Marketing และยังเป็นส่วนหนึ่งในโปรแกรม Google Partners อีกด้วย
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
โทร.: 02-038-5055
อีเมล: info@relevantaudience.com
เว็บไซต์: www.relevantaudience.com
