![Copy of [NEW] Blog Size [1200x628px] (40)](https://relevantaudience.sg/wp-content/uploads/elementor/thumbs/Copy-of-NEW-Blog-Size-1200x628px-40-qwqq2iiuaijg5ytlzry68x4jifxkn2zivselu2bqfc.png "Copy of [NEW] Blog Size [1200x628px] (40)")
ใครที่มีประสบการณ์การทำการตลาดออนไลน์โดยเฉพาะ Social Media Marketing (SMM) คงคุ้นเคยกับการคัดกรองเนื้อหาที่เหมาะสมในแต่ละแพลตฟอร์มกันดีอยู่แล้ว แต่สำหรับใครที่ยังไม่มีประสบการณ์หรือเป็นมือใหม่ที่กำลังเริ่มต้นวางกลยุทธ์การตลาดบนโซเชียลมีเดียอยู่ อาจจะเกิดความรู้สึกสับสนว่าจะเริ่มต้นที่คอนเทนต์ประเภทไหนดี จะลองเริ่มจากรูปภาพ วิดีโอ บล็อกหรือเว็บไซต์ฟอรัม แล้วจะนำคอนเทนต์เหล่านี้ไปโพสต์ที่ไหนดี
ดังนั้นเพื่อช่วยให้นักการตลาดทุกคนสามารถปรับปรุงกลยุทธ์การตลาดให้ดีขึ้น และประหยัดเวลาการทำงาน ในบทความนี้เราได้รวบรวมโซเชียลมีเดียรูปแบบต่างๆ ที่นักการตลาดทุกคนควรรู้ ตั้งแต่โซเชียลเน็ตเวิร์กไปจนถึงแพลตฟอร์มสตรีมมิ่ง ใครที่อยากสร้างตัวตนบนโลกออนไลน์ต้องห้ามพลาด
1. Social Network
สำหรับประเภทแรก หลายคนคงคุ้นเคยกันดีกับแพลตฟอร์มโซเชียลเน็ตเวิร์ค ที่เปรียบเสมือนกับเครือข่ายสังคมออนไลน์ขนาดใหญ่ที่อนุญาตให้ผู้คนทั่วโลกสามารถเชื่อมต่อกัน โดยผู้ใช้งานแต่ละคนสามารถแสดงความคิดเห็น กดไลก์ กดแชร์ และกดติดตามคนอื่นๆ ได้ตามความต้องการ
โดยแพลตฟอร์มประเภทนี้ส่วนใหญ่จะเป็นประโยชน์ในด้านการสร้าง Brand Awareness ไปจนถึงการเพิ่มจำนวน Traffic บนเว็บไซต์ ด้วยการที่สามารถสร้างเนื้อหาคอนเทนต์ที่เปิดโอกาสให้ผู้คนทั่วไปมีส่วนร่วมมากขึ้น จึงสามารถสร้างความสัมพันธ์ระยะยาวกับลูกค้าหรือผู้ติดตามคนอื่นๆ ได้นั่นเอง ตัวอย่างแพลตฟอร์มยอดนิยมในปัจจุบัน เช่น Facebook, LinkedIn, Instagram, Twitter, Tiktok และ Snapchat เป็นต้น
2. Image Sharing Sites
มีการศึกษาจากหลายแห่งที่น่าเชื่อถือได้ระบุตรงกันว่าเนื้อหาประเภท Visual Content หรือการเน้นเนื้อหาไปที่ “ภาพ” เป็นหลักจะช่วยให้ได้รับ Engagement มากกว่าเนื้อหาที่มีแต่ข้อความเพียงอย่างเดียว ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจที่แบรนด์ต่างๆ ในปัจจุบันจะใช้คอนเทนต์ประเภทรูปภาพนี้เป็นกุญแจสำคัญในกลยุทธ์การตลาด ซึ่งแน่นอนว่าในฐานะของแบรนด์ที่ต้องการใช้การตลาดประเภทนี้ควรเน้นที่การใช้ภาพสร้างสรรค์และมีคุณภาพสูงเพื่อที่จะสามารถบอกเล่าเรื่องราวได้ดี ตัวอย่างแพลตฟอร์มยอดนิยม เช่น Instagram, Snapchat, Pinterest และ Imgur เป็นต้น
3. Video Sharing Sites
ต้องยอมรับว่าในระยะเวลา 2 ปีที่ผ่านมา เทรนด์วิดีโอคอนเทนต์นั้นมาแรงจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นคลิปวิดีโอขนาดสั้นหรือยาวก็สามารถพบเจอได้ในเกือบทุกแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย ที่สำคัญคือวิดีโอคอนเทนต์นั้นเป็นรูปแบบคอนเทนต์ที่มีความยืดหยุ่นและความหลากหลายสูง ทำให้ผู้รับชมไม่รู้สึกเบื่อหน่ายและสามารถเสพคอนเทนต์ประเภทนี้ได้ในทุกวัน ตัวอย่างแพลตฟอร์มยอดนิยม เช่น YouTube, TikTok และ Vimeo เป็นต้น
4. Audio Sharing Sites
เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่หลายคนเคยบ่นว่ามันอาจจะเป็นเรื่องที่มาก่อนกาล แต่ต้องยอมรับว่าในยุคนี้ด้วยความเฟื่องฟูของ Podcast นั้นทำให้การตลาดแบบ Voice Marketing ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นและกลายเป็นหนึ่งในฟันเฟืองที่ช่วยขับเคลื่อนการตลาดออนไลน์ในปัจจุบัน ตัวอย่างแพลตฟอร์มยอดนิยม เช่น Clubhouse, Twitter Spaces และ Facebook Live Audio Rooms
5. Live Streaming Apps
ตลาดไลฟ์สตรีมมิงกำลังเป็นที่นิยมอย่างมาก โดยในปี 2020 เพียงปีเดียว ก็มีการรับชมแพลตฟอร์มประเภทนี้มากกว่า 482 พันล้านชั่วโมง โดยมีเนื้อหาแทบทุกประเภทไล่ตั้งแต่การสตรีมเกม คอนเสิร์ต ไปจนถึงการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ต่างๆ ของแบรนด์ ด้วยการที่แพลตฟอร์มประเภทนี้ช่วยให้ผู้รับชมสามารถใช้เวลาร่วมกับแบรนด์หรือครีเอเตอร์ได้แบบเรียลไทม์จึงทำให้เป็นที่นิยมในกลุ่มผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตในปัจจุบัน ตัวอย่างแพลตฟอร์มยอดนิยม เช่น YouTube Live, Facebook Live, Twitch และ UStream เป็นต้น
6. Social Messaging Apps
แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียส่วนมากจะมีฟีเจอร์หนึ่งที่เป็นพื้นฐานที่ขาดไปไม่ได้นั่นคือ Social Messaging ที่อนุญาตให้ผู้ใช้งานสามารถสื่อสารถึงกันได้แบบเรียลไทม์ ในฐานะของแบรนด์แล้วนับได้ว่านี่เป็นอีกหนึ่งวิธีที่มักจะไปนำใช้กับกลยุทธ์การบริการหรือดูแลลูกค้า เพื่อตอบสนองความต้องการส่วนตัวและช่วยให้แบรนด์ได้มีส่วนร่วมกับกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น ตัวอย่างแพลตฟอร์ม เช่น Facebook Messenger, Twitter DM, Google Business Messenger, WhatsApp, LINE และ WeChat เป็นต้น
7. Social Shopping Network
หลายคนคงรู้จักกับแพลตฟอร์ม E-Commerce กันอยู่แล้ว ว่าเป็นการซื้อขายสินค้าออนไลน์บนแพลตฟอร์มที่ถูกออกแบบมาให้รองรับการเลือกซื้อของโดยเฉพาะ แล้วจะเป็นอย่างไรหากแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียอนุญาตให้ผู้ใช้งานสามารถเลือกซื้อสินค้าต่างๆ ที่ต้องการและสามารถชำระเงินได้ทันที จะเห็นได้ว่าในปัจจุบันมีหลายโซเชียลมีเดียแพลตฟอร์มที่เริ่มต้นผสมผสานแนวทางเหล่านี้เข้าด้วยกันจนกลายมาเป็น Social-Commerce ที่เป็นการเพิ่มความสะดวกสบายให้กับผู้ใช้งานสายช็อปปิ้งบนโซเชียลมีเดีย ตัวอย่างแพลตฟอร์ม เช่น Facebook Marketplace, Shopify x TikTok, Shopify x YouTube, Instagramp Shop, LINE Shopping และ Pinterest Shoppable Pins เป็นต้น
8. Discussion Forums
สำหรับ Discussion Forums หรือแพลตฟอร์มที่เป็นลักษณะกระทู้สนทนาออนไลน์ ที่อนุญาตให้ผู้ใช้งานสามารถตั้งกระทู้พูดคุยกันได้ตามความต้องการ แพลตฟอร์มยอดนิยม เช่น Reddit, Quora และ Pantip เป็นต้น
แน่นอนว่าสิ่งสำคัญสำหรับนักการตลาดหรือแบรนด์คือการเลือกใช้แพลตฟอร์มให้เหมาะสมกับแต่ละคอนเทนต์ ประเภทของแพลตฟอร์มต่างๆ เหล่านี้เป็นหนึ่งในฟันเฟืองตัวสำคัญที่จะช่วยให้กลยุทธ์การตลาดออนไลน์ของธุรกิจมีประสิทธิภาพสูงขึ้นและนำไปสู่การประสบความสำเร็จในอนาคตแน่นอน
รับปรึกษาการทำ Digital Marketing ที่ Relevant Audience
Relevant Audience บริษัทที่ให้บริการเกี่ยวกับ Digital Performance Marketing Agency โดยมีเป้าหมายหลักเพื่อให้บริการด้านการตลาดดิจิทัล ให้ธุรกิจเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่กำลังมองหาผลิตภัณฑ์หรือบริการในเวลา สถานที่ และอุปกรณ์ที่เหมาะสม ผ่านช่องทางออนไลน์ต่างๆ บริการของเราครอบคลุมทั้ง Search Marketing, Social Media Ads, Search Ads และ SEO (Search Engine Optimization) ไปจนถึง Influencer Marketing และยังเป็นส่วนหนึ่งในโปรแกรม Google Partners อีกด้วย
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
โทร.: 02-038-5055
อีเมล: info@relevantaudience.com เว็บไซต์: www.relevantaudience.com
