Blog

ในฐานะของเจ้าของธุรกิจแบบ E-Commerce ที่กำลังเริ่มต้นวางกลยุทธ์การตลาดในช่องทางออนไลน์ต่างๆ จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องรู้จักการใช้เครื่องมือที่หลากหลายบนแพลตฟอร์มออนไลน์ เพื่อให้แน่ใจว่ากลยุทธ์การตลาดมีประสิทธิภาพที่ดีมากยิ่งขึ้น แน่นอนว่ายิ่งนานวันโลกการแข่งขันของตลาด E-Commerce ก็ยิ่งรุนแรงเพิ่มขึ้นแบบทวีคูณ จึงเป็นหน้าที่ของนักการตลาดที่จะต้องงัดไม้เด็ดมาประชันกัน แน่นอนว่าการตลาดในแต่ละช่องทางนั้นไม่ได้ถูกสร้างหรือออกแบบมาให้เหมาะสมกับทุกกลุ่มธุรกิจ ดังนั้นในบทความนี้จะพาทุกคนมาทำความรู้จักช่องทางการตลาดที่น่าสนใจสำหรับธุรกิจแบบ E-commerce เพื่อให้นักการตลาดมือใหม่ทุกคนสามารถเลือกช่องทางที่เหมาะสม รับรองว่าอ่านจบแล้วสามารถนำไปปรับใช้ได้อย่างแน่นอน ถ้าพร้อมแล้ว ไปดูกันเลย ช่องทางการตลาดสำหรับ E-Commerce คืออะไร? สำหรับช่องทางการตลาดหรือ Marketing Channel ของ E-Commerce เปรียบได้กับสื่อกลางที่นักการตลาดใช้เพื่อสื่อสารกับกลุ่มเป้าหมายหรือลูกค้า

ล่าสุดกูเกิลได้ประกาศเปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ 4 อย่างบน Discovery Ads เพื่อให้แน่ใจว่านักการตลาดทุกคนจะสามารถวางกลยุทธ์การตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยฟีเจอร์ต่างๆ จะเข้ามาช่วยให้นักการตลาดสามารถปรับปรุงหรือจัดการแคมเปญได้ง่ายมากขึ้น ฟีเจอร์แต่ละอย่างที่ถูกเพิ่มเข้ามาจะมีรายละเอียดเป็นอย่างไร ถ้าพร้อมแล้ว มาดูกันเลย Better Ad Experiences Google กำลังพยายามที่จะมอบประสบการณ์การรับชมโฆษณาผ่านช่องทางต่างๆ ให้ดีมากขึ้น โดยจะเริ่มต้นที่แท็บใน Gmail ทั้งในหน้า Social และ Promotion โดยจะเป็น Ads

ต้องบอกว่าปัจจุบันการทำการตลาดแบบ Influencer Marketing ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะกลุ่มธุรกิจประเภท B2C หรือธุรกิจที่เน้นการขายสินค้าให้กับลูกค้ารายบุคคลโดยตรง แต่เชื่อหรือไม่ว่าปัจจุบันการตลาดแบบ Influencer นี้เริ่มได้รับความนิยมกับกลุ่มธุรกิจแบบ B2B มากขึ้น เพราะในโลกของธุรกิจการมี Influencer ที่น่าเชื่อถือจะช่วยให้แบรนด์มีผู้นำทางความคิดที่จะคอยโน้มน้าวใจให้เจ้าของธุรกิจอื่นๆ ตัดสินใจซื้อสินค้าหรือบริการได้ง่ายมากขึ้น  ล่าสุดจากการศึกษาของเว็บไซต์ Toptankblog ระบุว่ากลุ่มธุรกิจ B2B ที่ประสบความสำเร็จด้านยอดขายส่วนใหญ่มีการทำการตลาดแบบ Influencer Marketing มากถึง 86%

จากการรวบรวมสถิติโดย Statista พบว่าในปัจจุบันผู้คนทั่วไปนิยมใช้มือถือในการเข้าชมเว็บไซต์ต่างๆ สูงถึง 51.92% เมื่อเทียบจากผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตทั้งหมด ซึ่งเป็นตัวเลขที่สูงกว่าการใช้งานบนเดสก์ท็อปหรือคอมพิวเตอร์มากกว่าครึ่ง แน่นอนว่าเป็นผลให้แผนการตลาดออนไลน์ของนักการตลาดส่วนใหญ่ที่ยังไม่ได้มีการปรับแต่งเว็บไซต์ให้เหมาะสมกับการแสดงผลบนอุปกรณ์มือถือจำเป็นต้องมีการปรับตัวอย่างเร่งด่วน  ดังนั้นในบทความนี้ได้นำเคล็ดลับดีๆ จาก Digital Marketing Institute มาฝากกัน โดยเป็น 3 วิธีที่จะช่วยให้นักการตลาดพร้อมที่จะเผชิญกับโลกการตลาดที่เทรนด์ Mobile First กำลังเป็นกระแสนิยมอยู่ในตอนนี้  ถ้าพร้อมแล้ว ไปดูกันเลย 1. ปรับข้อความให้เหมาะสม สำหรับคอนเทนต์บนเว็บไซต์

จากการรายงานของ Creator Insider ซึ่งเป็นแชนแนลที่ชอบแชร์ข่าวสารเกี่ยวกับข้อมูลใหม่ๆ บน YouTube โดยในครั้งนี้ระบุถึงการอัปเดตประจำสัปดาห์ของ YouTube ที่ได้มีการอัปเดตฟีเจอร์ใหม่ๆ รวมไปถึงการขยายคลังซาวนด์ประกอบฟรี ที่จะช่วยให้ครีเอเตอร์บน YouTube สามารถสร้างสรรค์คอนเทนต์ได้หลากหลายมากขึ้น รายละเอียดจะเป็นอย่างไร จะมีอะไรที่น่าสนใจสำหรับครีเอเตอร์และนักการตลาดบ้าง มาดูไปพร้อมกันเลย YouTube ขยายไลบรารีเพลงประกอบมากขึ้น จากการอัปเดตล่าสุดนี้ YouTube เอาใจครีเอเตอร์มากขึ้นด้วยการขยายไลบรารีเพลงประกอบที่ถูกลิขสิทธิ์เพื่อให้ครีเอเตอร์มีตัวเลือกมากขึ้นในการนำไปใช้ประกอบวิดีโอคอนเทนต์ต่างๆ และยังสามารถสร้างรายได้เพิ่มเติมจากวิดีโอได้เช่นกัน โดยการอัปเดตนี้กำลังอยู่ในช่วงทดสอบกับกลุ่มครีเอเตอร์จำนวนหนึ่ง ซึ่งคาดว่าจะเปิดให้ครีเอเตอร์ทั่วไปได้ใช้งานกันอย่างเต็มรูปแบบในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้าแน่นอน อัปเดตเมตริกใหม่ 

จากการประกาศล่าสุดใน Meta Blog Post ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของ Facebook ได้ออกมาระบุถึงการประกาศยกเลิกฟีเจอร์ “Live Shopping” ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม เป็นต้นไป โดยให้เหตุผลว่าพฤติกรรมของผู้ใช้งานในปัจจุบันมีการเปลี่ยนแปลง โดยเริ่มหันไปนิยมเสพวิดีโอคอนเทนต์ขนาดสั้นกันมากขึ้น ทำให้ Facebook ต้องการที่จะไปโฟกัสกับ Facebook Reels แทน รายละเอียดทั้งหมดจะเป็นอย่างไร นักการตลาดยุคใหม่ต้องห้ามพลาด ถ้าพร้อมแล้ว ไปดูกันเลย