ในฐานะของเจ้าของธุรกิจแบบ E-Commerce ที่กำลังเริ่มต้นวางกลยุทธ์การตลาดในช่องทางออนไลน์ต่างๆ จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องรู้จักการใช้เครื่องมือที่หลากหลายบนแพลตฟอร์มออนไลน์ เพื่อให้แน่ใจว่ากลยุทธ์การตลาดมีประสิทธิภาพที่ดีมากยิ่งขึ้น แน่นอนว่ายิ่งนานวันโลกการแข่งขันของตลาด E-Commerce ก็ยิ่งรุนแรงเพิ่มขึ้นแบบทวีคูณ จึงเป็นหน้าที่ของนักการตลาดที่จะต้องงัดไม้เด็ดมาประชันกัน
แน่นอนว่าการตลาดในแต่ละช่องทางนั้นไม่ได้ถูกสร้างหรือออกแบบมาให้เหมาะสมกับทุกกลุ่มธุรกิจ ดังนั้นในบทความนี้จะพาทุกคนมาทำความรู้จักช่องทางการตลาดที่น่าสนใจสำหรับธุรกิจแบบ E-commerce เพื่อให้นักการตลาดมือใหม่ทุกคนสามารถเลือกช่องทางที่เหมาะสม รับรองว่าอ่านจบแล้วสามารถนำไปปรับใช้ได้อย่างแน่นอน ถ้าพร้อมแล้ว ไปดูกันเลย
ช่องทางการตลาดสำหรับ E-Commerce คืออะไร?
สำหรับช่องทางการตลาดหรือ Marketing Channel ของ E-Commerce เปรียบได้กับสื่อกลางที่นักการตลาดใช้เพื่อสื่อสารกับกลุ่มเป้าหมายหรือลูกค้า โดยจะแบ่งได้เป็น 2 ประเภท ได้แก่
- Paid Channel – สำหรับช่องทางนี้จะมีรูปแบบเฉพาะตัวคือจะต้องเสียเงินเพื่อโปรโมตแคมเปญให้เข้าถึงผู้คนหรือกลุ่มเป้าหมาย เพื่อนำคนเหล่านี้มายังร้านค้า E-Commerce ของคุณเอง พูดง่ายๆ ว่าเป็นการจ่ายเงินเพื่อซื้อพื้นที่โฆษณานั่นเอง
- Organic Channel – สำหรับช่องทางแบบ Organic จะเป็นลักษณะที่แบรนด์หรือนักการตลาดสร้างสรรค์คอนเทนต์โดยไม่ต้องเสียเงินเพื่อโปรโมต โดยมากจะนิยมใช้ในแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียต่างๆ แต่ก็แลกมากับการแข่งขันที่สูง
1. Email Marketing
หนึ่งในกลยุทธ์การตลาดที่ได้รับความนิยมในทุกยุคทุกสมัยคือการทำ Email Marketing หรือก็คือการตลาดผ่านอีเมล ไม่ว่าจะเพื่อการสร้างยอดขาย การโปรโมตสินค้าใหม่ๆ การจัดกิจกรรมโปรโมชัน หรือส่งข่าวประชาสัมพันธ์ใดๆ ก็ตาม การทำการตลาดด้วยวิธี Email Marketing นี้จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพแคมเปญต่างๆ ให้กับธุรกิจ E-Commerce มากขึ้น เพราะการตลาดแบบนี้สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างเจาะจงเฉพาะบุคคล ทำให้ไม่ต้องไปเสียเวลาทุ่มเทกับการตลาดแบบอื่น แถมวิธีการยังง่าย ประหยัดเวลา และสามารถวัดผลได้อย่างทันที
ต้องบอกว่า Email Marketing เป็นช่องทางที่หลายๆ คนมักจะมองข้ามไป แต่ถ้าเลือกใช้ให้เป็นและเหมาะสมกับแคมเปญแล้ว รับรองว่ามีประโยชน์มากๆ สำหรับใครที่สน แนะนำให้อ่านต่อในบทความนี้ 6 วิธีใช้ Email Marketing
2. Social Media Marketing
การทำการตลาด Ecommerce บน Social Platform หรือที่หลายคนเรียกกันว่า Social Commerce นั้นเป็นหนึ่งในแนวทางการตลาดที่เหมาะสมกับพฤติกรรมการบริโภคของผู้คนในยุคนี้เป็นอย่างมาก ด้วยการที่ธุรกิจทำการตลาดแบบ Social Commerce นี้จะสามารถสร้างกลุ่มคอมมูนิตี้บนแพลตฟอร์มออนไลน์ต่างๆ ที่รวบรวมคนที่สนใจในเรื่องเดียวกันเพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูล การซื้อขายสินค้า อย่างเช่น ในเฟสบุ๊กที่เป็นแพลตฟอร์มยอดนิยมของคนไทย ทำให้ช่องทางเหล่านี้ช่วยให้แบรนด์สามารถสื่อสารกับลูกค้าได้รวดเร็ว เข้าถึงกลุ่มลูกค้าใหม่ๆ ได้ง่ายมากขึ้น แถมในหลายแพลตฟอร์มตอนนี้ยังมีฟีเจอร์ที่รองรับการชำระเงินที่สะดวกรวดเร็ว ตอบโจทย์ผู้ประกอบการ E-Commerce ในด้านการขายสินค้าในขณะที่สอดคล้องกับประสบการณ์การเลือกซื้อสินค้าของลูกค้าอีกด้วย สำหรับใครที่อยากรู้ว่าปัจจุบันมีแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียไหนที่จะตอบโจทย์รูปแบบธุรกิจของคุณ สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ใน รู้จัก 6 แพลตฟอร์มและแอปฯ Social Media มาแรง
3. Affiliate Marketing
อีกหนึ่งรูปแบบที่เริ่มได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง อย่างการตลาดแบบ Affiliate Marketing หรือก็คือการโปรโมตสินค้าแบบ “ช่วยขาย” ที่จะช่วยเพิ่มรายได้ทั้งคนขายสินค้าและคนที่ช่วยขายสินค้า พูดง่ายๆ ว่า วิน-วินทั้งคนขายและคนช่วย โดยแนวทางการตลาดแบบนี้จะแบ่งได้เป็นสองส่วน คือ
- ผู้ประกอบการหรือเจ้าของแบรนด์
- เจ้าของสื่อที่มีผู้ติดตาม
โดยผู้ที่ต้องการโฆษณาหรือขายสินค้าเพียงแค่มองหา Publisher หรือผู้ช่วยขายสินค้า ให้ช่วยพูดถึงและโน้มน้าวให้กลุ่มลูกค้าที่อาจจะเป็นผู้ติดตามซื้อสินค้านั้นๆ โดยปกติแล้วแพลตฟอร์ม E-Commerce จะมีฟังก์ชัน Affiliate ให้ผู้ประกอบการสามารถเลือกใช้งานได้ สำหรับแพลตฟอร์ม E-Commerce ในไทยหลายเจ้าก็มีฟีเจอร์นี้ให้เลือกใช้ เช่น Amazon, Ebay, Lazada, Shopee เป็นต้น
อย่างไรก็ตามไม่ว่าคุณจะเป็นนักการตลาดหรือผู้ประกอบการ ที่กำลังอยากจะเริ่มต้นใช้วิธีการตลาดแบบ Affiliate ก็อย่าลืมเรียนรู้การใช้วิธีนี้ให้ถูกต้อง รับรองว่าจะช่วยให้ธุรกิจของคุณเติบโตขึ้นได้อย่างแน่นอน
4. SEM Marketing
การทำ SEM Marketing คือการทำการตลาดบน Search Engine คล้ายกับการทำ SEO แต่จะเป็นกลยุทธ์ที่จำเป็นต้องชำระเงินที่มีลักษณะแบบ Pay Per Click พูดง่ายๆ ว่า แบรนด์หรือนักการตลาดจำเป็นที่จะต้องจ่ายเงินเพื่อให้โฆษณาปรากฏในหน้า SERPs ยิ่งจ่ายเยอะก็ยิ่งมีโอกาสติดอันดับต้นๆ
ต้องบอกว่าในฐานะของผู้ประกอบการหรือนักการตลาดที่กำลังเริ่มต้นธุรกิจ E-Commerce การทำ SEM นั้นเป็นอีกวิธีที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดวิธีหนึ่งในการพัฒนาธุรกิจ E-commerce ของคุณในตลาดที่มีการแข่งขันสูงตลอดเวลา
5. SEO Marketing
สำหรับการทำการตลาดแบบ SEO หรือ Search Engine Optimization เป็นอีกหนึ่งช่องทางที่มีประสิทธิภาพในการสร้างแบรนด์บนโลกออนไลน์ เพราะเป็นการตลาดที่อยู่บนพื้นฐานการทำงานของ Search Engine ที่เป็นเครื่องมือที่ผู้คนทั่วโลกนิยมใช้งานกัน จึงทำให้การทำ SEO เป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ยอดนิยมของนักการตลาดทั้งมือใหม่และมือเก่า
อย่างไรก็ตามปัจจุบันการแข่งขันการตลาดแบบ SEO นั้นสูงเพิ่มมากขึ้น จึงเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่งหากแบรนด์มีความคิดที่จะเริ่มต้นทำ SEO จำเป็นต้องมีความเชี่ยวชาญหรือประสบการณ์อย่างสูง ดังนั้นหากผู้ประกอบการท่านใดที่ไม่มั่นใจแนะนำว่าให้หาบริษัท Outsource ที่มีความเชี่ยวชาญโดยเฉพาะในการช่วยดูแลจะเหมาะสมที่สุด
สรุป
สำหรับผู้ประกอบการหรือนักการตลาดท่านใดที่กำลังเริ่มต้นธุรกิจ E-Commerce และกำลังมองหาช่องทางการตลาดที่จะช่วยเพิ่มศักยภาพให้กับยอดขาย ก่อนอื่นอย่าลืมที่จะประเมินรูปแบบธุรกิจของคุณก่อนเสมอ เพื่อให้แน่ใจว่ารูปแบบธุรกิจของคุณนั้นเหมาะสมและสอดคล้องกับช่องทางการตลาดในรูปแบบไหนที่สุด เพราะช่องทางการตลาดแต่ละรูปแบบก็มีข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกันไป หรือจะลองทำการตลาดแบบผสมผสานควบคู่กันไปก็ได้เช่นกัน เพื่อให้บรรลุเป้าหมายทางการตลาดได้มากที่สุด
รับปรึกษาการทำ Digital Marketing ที่ Relevant Audience
Relevant Audience บริษัทที่ให้บริการเกี่ยวกับ Digital Performance Marketing Agency โดยมีเป้าหมายหลักเพื่อให้บริการด้านการตลาดดิจิทัล ให้ธุรกิจเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่กำลังมองหาผลิตภัณฑ์หรือบริการในเวลา สถานที่ และอุปกรณ์ที่เหมาะสม ผ่านช่องทางออนไลน์ต่างๆ บริการของเราครอบคลุมทั้ง Search Marketing, Social Media Ads, Search Ads และ SEO (Search Engine Optimization) ไปจนถึง Influencer Marketing และยังเป็นส่วนหนึ่งในโปรแกรม Google Partners อีกด้วย
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
โทร.: 02-038-5055
อีเมล: info@relevantaudience.com
เว็บไซต์: www.relevantaudience.com