LinkedIn อัปเดตอัลกอริทึมในการเปลี่ยนวิธีจัดอันดับเนื้อหาบนหน้าฟีด

ในปีที่ผ่านมา แอปฯ LinkedIn ได้ปรับเปลี่ยนใหม่อยู่ตลอดทั้งปีไม่ว่าจะเป็นการปรับปรุงฟีเจอร์เดิมให้มีประสิทธิภาพที่ดีขึ้น หรือจะเป็นการเพิ่มเติมฟีเจอร์ เพื่อเป็นตัวเลือกใหม่ๆ สำหรับผู้ใช้งาน โดยประกาศล่าสุดแพลตฟอร์มเพื่อคนทำงานอย่าง LinkedIn ก็มีเป้าหมายที่จะสร้างประสบการณ์ที่เป็นส่วนตัวที่มากขึ้น ด้วยการอัปเดตอัลกอริทึมในการเปลี่ยนวิธีการจัดอันดับเนื้อหาในหน้าฟีดของผู้ใช้งานให้แสดงผลแต่ข้อมูลที่ผู้ใช้งานต้องการเท่านั้น มาดูว่าภาพรวมการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้จะเป็นอย่างไรไปพร้อมกันเลย ผู้ใช้งานสามารถควบคุมหน้าฟีดได้มากขึ้น แน่นอนว่าในการอัปเดตครั้งนี้ LinkedIn มีตัวเลือกสำหรับผู้ใช้งานในการเลือกจำกัดเนื้อหาที่ไม่สนใจได้ เพียงแค่เลือก “I Don’t Want to See This” สำหรับแต่ละโพสต์ โดย Linda Leung ผู้อำนวยการฝ่ายการจัดการผลิตภัณฑ์ที่ LinkedIn ได้ให้ความเห็นที่น่าสนใจเอาไว้ในบล็อกโพสต์ว่า “ที่ LinkedIn เรากำลังทดสอบวิธีใหม่ๆ ในการรับฟีดแบ็กของผู้ใช้งาน ด้วยตัวเลือกนี้ผู้ใช้งานจะสามารถรายงานมาได้ว่ามีหัวข้อไหนที่ไม่น่าสนใจเพื่อให้มีการเปลี่ยนแปลงไปตามสิ่งที่ผู้ใช้งานต้องการ โดยแน่นอนว่าการเปลี่ยนแปลงนี้มาจากผู้ใช้งานโดยตรง และเรายินดีที่จะเห็นการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ให้มากขึ้น ในการควบคุมฟีดยังมีอะไรอีกมากที่จะตามมาในอนาคต ยิ่งผู้ใช้งานใช้ฟีเจอร์นี้มากเท่าไหร่ ก็ยิ่งสามารถปรับประสบการณ์ให้ดียิ่งขึ้นเท่านั้น” นอกจากนี้สำหรับเนื้อหาที่มีความเกี่ยวข้องกับการเมืองก็เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่ถูกร้องเรียนเข้ามามาก ซึ่ง LinkedIn รับรู้ปัญหาของผู้ใช้งานในเรื่องนี้ดี สำหรับการแก้ไขปัญหาในเรื่องนี้ LinkedIn กำลังทดสอบวิธีเพื่อให้ผู้ใช้งานมีตัวเลือกในการลดการแสดงผลเนื้อหาทางการเมืองบนหน้าฟีด ซึ่งในตอนนี้กำลังทดสอบอยู่ในสหรัฐฯ เท่านั้น และในอนาคตจะมีการขยายไปยังภูมิภาคอื่นหรือประเทศอื่นต่อไป หน้าฟีดจะแสดงสิ่งที่ไม่เกี่ยวข้องน้อยลง การอัปเดตอัลกอริทึมของ LinkedIn ในครั้งนี้จะถูกปรับให้มีการประมวลผลเนื้อหาบนหน้าฟีดให้ตรงกับความต้องการของผู้ใช้งานมากขึ้น โดยจะพยายามจัดลำดับความสำคัญของโพสต์หรือเนื้อหาอื่นๆ […]
เปิดตัว TikTok Pulse เตรียมแบ่งรายได้ให้กับครีเอเตอร์

จากการเติบโตแบบก้าวกระโดดของแอปฯ แชร์คลิปวิดีโอขนาดสั้นยอดนิยมจากแดนมังกรอย่าง TikTok ภายในระยะเวลาเพียงแค่ 2 ปีที่เปิดตัว จึงไม่แปลกที่แบรนด์ต่างๆ จะกระโดดเข้าร่วมวงนี้เพื่อเพิ่มช่องทางการสื่อสารการตลาด ทำให้มีเม็ดเงินจำนวนมหาศาลจากการโฆษณาหมุนเวียนอยู่ในแพลตฟอร์มเป็นจำนวนมาก อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้หากใครที่สนใจอยากจะหารายได้เสริมด้วยการรับบทเป็นครีเอเตอร์แล้วหวังว่าจะได้รับรายได้ก็ต้องอกหักกันไปตามระเบียบ เพราะครีเอเตอร์คนดังหลายรายเคยออกมาบ่นเรื่องนี้ผ่านโซเชียลมีเดียว่า TikTok ให้ค่าตอบแทนที่ไม่เป็นธรรมเท่าไหร่นัก หากเทียบกับแพลตฟอร์มอื่นๆ อย่าง YouTube Short (อ่านเพิ่มเติมได้จากที่นี่) แต่ในตอนนี้ TikTok ได้ประกาศเปิดตัว TikTok Pulse ซึ่งเป็นโซลูชันใหม่สำหรับครีเอเตอร์ที่จะสามารถรับรายได้จากโฆษณาบนแพลตฟอร์ม การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ของ TikTok จะเป็นอย่างไร ถ้าพร้อมแล้ว ไปดูกันเลย TikTok Pulse คืออะไร? TikTok Pulse เป็นเครื่องมือที่ถูกออกแบบมาเพื่อการแบ่งปันรายได้ให้กับครีเอเตอร์โดยเป็นการเปิดโอกาสให้แบรนด์สามารถใช้งานเพื่อยิงโฆษณาในขณะที่ครีเอเตอร์ที่สร้างคอนเทนต์ก็จะมีโอกาสได้รับแบ่งปันรายได้สูงถึง 50% โดยที่ครีเอเตอร์ต้องมียอดติดตามขั้นต่ำ 1 แสนคน นอกจากนี้ TikTok ยังเพิ่มแรงจูงใจให้แบรนด์ด้วยการเคลมว่าโฆษณาที่แบรนด์ปล่อยออกไปภายใต้เครื่องมือ TikTok Pulse นี้ จะอยู่ใน Top 4% แรก ใน 12 หมวดแนะนำ ตัวอย่างเช่น ซึ่งจะเป็นผลให้ผู้ใช้งานทั่วไปเห็นโฆษณาได้เยอะมากขึ้นโดยไม่ต้องไปเสียเวลาตั้งค่าเพิ่มเติมให้วุ่นวายแต่อย่างใด […]
กูเกิลเผยปี 2021 บล็อกโฆษณาไปมากกว่า 3.4 พันล้านรายการ

จากการรายงาน Ads Safety Report ประจำปี 2021 ทาง Google พบว่าในปีที่ผ่านมา รายการโฆษณาที่ถูกกูเกิลบล็อกหรือถูกลบออกมีมากถึง 3.4 พันล้านรายการ และตัวเลขของบัญชีผู้ใช้งานที่ถูกแบนยังสูงเพิ่มขึ้นเป็น 3 เท่า จากปีก่อนหน้า ว่าแต่รายละเอียดจะเป็นอย่างไร? และจะมีอะไรที่นักการตลาดต้องเป็นกังวลบ้าง? มาดูไปพร้อมกันในบทความนี้เลย โฆษณา 3.4 พันล้านรายการที่ถูกบล็อก สำหรับ 3 อันดับแรกของประเภทโฆษณาที่โดนกูเกิลบล็อกหรือลบออกมากที่สุด ได้แก่ มีข้อสังเกตที่น่าสนใจคือหากเปรียบเทียบกับในปี 2021 จะพบว่า จะเห็นได้ว่าตัวเลขกระโดดเพิ่มขึ้นสูงทุกปี และหากหันมามองดูคู่แข่งอย่าง Microsoft มีรายงานที่ออกมาบอกว่ามีการบล็อกหรือลบโฆษณาออกไปราว 3 พันล้าน รายการในปี 2021 นั่นหมายความว่าหากรวมตัวเลขทั้งสองบริษัทยักษ์ใหญ่นี้เข้าด้วยกันจะมีตัวเลขโฆษณาที่สูงมากถึง 6.5 พันล้านรายการที่ถูกลบออกไปในปีที่ผ่านมา โฆษณา 5.7 พันล้านรายการที่ถูกจำกัดการเข้าถึง โฆษณาบางรายการไม่สามารถแสดงผลต่อผู้ใช้งานได้ เนื่องจากโฆษณาเหล่านี้ถูกจัดอยู่ในหมวดหมู่ที่มีความละเอียดอ่อนในแง่ของกฎหมายหรือทางวัฒนธรรมต่อบางประเทศ โดยมีโฆษณาประเภทต่างๆ ดังนี้ นอกจากนี้ยังมีบัญชีผู้ใช้งาน 5.6 ล้านบัญชีที่ถูกกูเกิลระงับการใช้งาน โดยกูเกิลระบุว่าเกิดจากการจงใจหลีกเลี่ยงการถูกตรวจจับ ตัวอย่างเช่น การสร้างบัญชีหลายร้อยหรือหลายพันบัญชีพร้อมกันและพยายามใช้เทคนิคต่างๆ ในการพยายามปิดบังหน้าเว็บหรือปรับเปลี่ยนข้อความเพื่อแสร้งให้ระบบของกูเกิลเห็นเนื้อหาที่ต่างออกไป บล็อกโฆษณาที่เป็น […]
รู้ก่อนได้เปรียบกว่า! 5 วิธี Save Budget บน Google Ads

สถานการณ์โลกในตอนนี้ ไม่ต้องเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินก็รู้ได้ทันทีว่าโลกกำลังอยู่ในสภาวะเศรษฐกิจที่ตกต่ำ ในนิคมอุตสาหกรรมต่างๆ คนงานถูกเลิกจ้างเป็นจำนวนมากจากสาเหตุของการปิดตัวลงของบริษัทขนาดใหญ่ หรือแม้แต่ธุรกิจ SME ขนาดเล็ก – กลาง ก็ยังไปต่อไม่ไหวในหลากหลายอุตสาหกรรม อย่างไรก็ตามในซอกหลืบของเรื่องแย่ๆ ก็ยังมีเรื่องดีๆ เกิดขึ้นบ้าง ในขณะที่ผู้คนส่วนใหญ่ใช้ชีวิตอยู่แต่ภายในบ้านส่งผลให้ยอดขายของอุตสาหกรรมอีคอมเมิร์ซเพิ่มขึ้นถึง 25% ถึงแม้ตัวเลขต่างๆ จะบ่งชี้ว่าอุตสาหกรรมอีคอมเมิร์ซกำลังอยู่ในช่วงขาขึ้น แต่เชื่อได้เลยว่าผู้ประกอบการธุรกิจอีคอมเมิร์ซส่วนใหญ่ก็ยังคงมีความระมัดระวังในการใช้จ่ายโดยไม่จำเป็น คำถามที่มักจะวนเวียนอยู่ในหัวผู้ประกอบการเสมอคือ “ควรแบ่งงบการตลาดไว้มากน้อยแค่ไหนถึงจะประหยัดที่สุด” สำหรับในบทความนี้นำ 5 วิธีที่จะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายจาก Google Ads กัน 1. ใช้ Negative Keyword เพื่อกรองลูกค้า หลายคนคงทราบกันดีอยู่แล้วว่าการทำโฆษณาผ่าน Google Ads นักการตลาดหรือแบรนด์จะต้องจ่ายค่าบริการเสมอเมื่อมีการคลิกที่เกิดขึ้นจริง (CPC) ยิ่งถ้ามีคนคลิกมากเท่าไหร่ ก็ต้องจ่ายเงินกลับไปเท่านั้นตามผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น ฟังดูแล้วก็เป็นเรื่องที่ดูจะสมเหตุสมผลถ้าคนที่คลิกจะเข้ามาเป็นลูกค้าทั้งหมด 100% แต่ในความเป็นจริงมันไม่เป็นเช่นนี้เสมอไป เนื่องจากในแต่ละคลิกอาจจะมีบางคนที่เผลอคลิกเข้ามาแล้วออกไปนั่นก็จะทำให้แบรนด์เสียเงินเพิ่มโดยไม่ได้อะไรกลับมา ดังนั้นเพื่อลดความเสี่ยงและป้องกันไม่ให้คนที่ไม่ได้เข้าข่ายกลุ่มเป้าหมายมาคลิก โดยการเลือกใช้ Negative Keyword ถือเป็นตัวช่วยหนึ่งที่มีประโยชน์ในการช่วยเป็นตัวคัดกรองลูกค้า ให้แบรนด์ไม่เสียเงินกับกลุ่มคนที่ไม่ใช่กลุ่มเป้าหมาย เนื่องจาก Negative Keyword เป็นคีย์เวิร์ดที่ผู้สร้างโฆษณาไม่ต้องการที่จะโชว์โฆษณาให้กับคนที่ใช้คำเหล่านี้ในการค้นหาบน Google Search เช่น […]
กูเกิลทดสอบอัปเดตใหม่สำหรับ Featured Snippets

จากการรายงานล่าสุดของ Barry Schwartz คอลัมนิสต์คนดังจากเว็บไซต์ Search Engine Roundtable ระบุว่ากูเกิลกำลังเริ่มทดสอบอัปเดตใหม่ 2 อย่างที่กำลังจะถูกเพิ่มเข้ามาให้กับ Featured Snippet โดยถูกเรียกว่า “From The Web และ Other Sites Say” โดยจะมีรายละเอียดเป็นอย่างไร และมีอะไรที่แบรนด์ นักการตลาดหรือ SEO Specialist จะต้องรู้บ้าง มาดูไปพร้อมกัน Featured Snippet คืออะไร? ใครเคยลองเสิร์ชหาข้อมูลแล้วได้คำตอบทันทีโดยที่ไม่ต้องคลิกเข้าไปดูทีละเว็บบ้าง? Featured Snippet คือฟีเจอร์ของ Google Search ที่จะเข้ามาตอบโจทย์สำหรับผู้ที่เข้ามาค้นหาแล้วต้องการเจอคำตอบให้ไวขึ้นโดยจะปรากฏในรูปแบบกล่องข้อความด้านบนสุดอยู่เหนือทั้งหน้าเว็บไซต์ที่ทำ SEO ติดอันดับ 1 รวมไปถึงเว็บไซต์ที่ซื้อ Ads คำถามคือจะทำอย่างไรให้คอนเทนต์บนเว็บไซต์ถูกอัลกอริทึมเลือกนำไปแสดงผลใน Featured Snippet คำตอบก็คือ การทำ SEO ให้ตรงตามความต้องการของอัลกอริทึมของกูเกิลนั่นเอง ไม่ว่าจะเป็นการปรับปรุงหน้าเว็บไซต์ที่ติดหน้าแรกของ SERPs อยู่แล้ว หรือการตั้งหัวข้อด้วยคำถามนับเป็นความคิดที่ดี เนื่องจากมีงานวิจัยที่น่าเชื่อถือได้หลายที่รายงานตรงกันว่า Featred […]