Blog

ถ้าพูดถึงการวัดผลประสิทธิภาพของแคมเปญบนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย เชื่อได้เลยว่าหลายคนจะต้องนึกถึงจำนวนคอมเมนต์ ยอดไลก์ และยอดแชร์เป็น 3 อันดับแรก แม้ว่าสิ่งเหล่านี้จะเป็นเมตริกที่ดีในการบ่งชี้ประสิทธิภาพของแคมเปญแต่ต้องยอมรับว่าในการวัดประสิทธิภาพว่าแคมเปญนั้นไม่ได้มีเพียงแค่ 3 สิ่งนี้เท่านั้น เพื่อให้ผลลัพธ์ของการทำแคมเปญบนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียเกิดประสิทธิภาพสูงสุด การวัดผลด้วยเมตริกต่างๆ ให้ครบถ้วนเป็นเรื่องสำคัญ ฉะนั้นในบทความนี้จึงมาแนะนำ 5 KPI ที่ควรแทร็กบนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย เพื่อทำความเข้าใจว่าแคมเปญมีอะไรที่ควรปรับปรุง ถ้าพร้อมแล้ว มาดูกันเลย 1. ยอด Reach หลายคนที่เพิ่งเริ่มต้นทำแคมเปญบนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย คงได้ยินคำว่ายอด Reach

ในปี 2015 โลกได้รู้จักกับสภาวะ Mobilegeddon ที่ล้อเลียนกับชื่อหนัง Armageddon สมัยนั้น ซึ่งเป็นการเปรียบเทียบกับการเปลี่ยนผ่านการเสิร์ชข้อมูลบนเดสก์ท็อปไปเป็นการเสิร์ชข้อมูลผ่านมือถือ เนื่องจากพฤติกรรมการใช้อินเทอร์เน็ตของคนทั่วโลกเริ่มเปลี่ยนไปมากขึ้น นับตั้งแต่นั้นโลกของ Search Engine ก็ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป กูเกิลได้มีการอัปเดตอัลกอริทึมในการจัดอันดับเว็บไซต์ให้มีความสำคัญกับการรองรับการใช้งานเว็บไซต์ผ่านโทรศัพท์มือถือมากขึ้น อย่างในปี 2018  กูเกิลก็มีการอัปเดต Mobile Speed ให้กลายมาเป็นปัจจัยสำคัญในการจัดอันดับเว็บไซต์ ต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบันก็มีการอัปเดต Core Web Vitals ที่ให้ความสำคัญกับเรื่องการใช้งานบนมือถือ

จากการรวบรวมสถิติโดยผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาดออนไลน์ พบว่า 98% ของผู้บริโภคของธุรกิจท้องถิ่นทั่วไปนิยมอ่านรีวิวออนไลน์ และมีมากถึง 81% ของผู้บริโภคที่นิยมอ่าน Google Reviews เพราะรีวิวเหล่านี้ช่วยตัดสินใจในการเลือกซื้อสินค้าหรือใช้บริการ ลองนึกภาพตามว่าหากคุณต้องการพาครอบครัวไปดินเนอร์ในร้านอาหารที่เพิ่งเปิดใหม่ 3 ร้าน ใกล้บ้าน จะเริ่มต้นจากอะไร เลือกสุ่มตามเส้นทางที่ผ่าน? หรือเลือกร้านที่ตรงตามสีมงคลประจำวัน? เชื่อได้ว่าเกินครึ่งทุกคนจะต้องเริ่มต้นจากการเปิดโทรศัพท์มือถือและอ่านรีวิวของลูกค้าที่เคยเข้ารับประสบการณ์ที่ดีจากร้านนั้นๆ จริง  แน่นอนว่าในแง่ของการรีวิวออนไลน์มันเป็นเรื่องที่ง่ายสำหรับลูกค้าที่จะพิมพ์อะไรก็ได้ลงไป แต่ในด้านของผู้ประกอบการกลับเป็นอีกเรื่องที่ต้องตามลุ้นอยู่เสมอๆ ว่าฟีดแบคที่ได้รับจากลูกค้าเป็นอย่างไร แน่นอนว่าแค่คำรีวิวบนโลกออนไลน์ไม่ได้เป็นเพียงปัจจัยเดียวที่จะช่วยให้ธุรกิจประสบความสำเร็จหรือพังทลายภายในพริบตา แต่ก็ต้องยอมรับว่าการที่ผู้ประกอบการไม่ให้ความสำคัญกับการรีวิวออนไลน์เลยก็ดูจะเป็นเรื่องที่ประมาทจนเกินไป ฉะนั้นในบทความนี้จะมาช่วยไขความกระจ่างว่าหากธุรกิจของคุณเจอรีวิวที่ไม่ดีจะมีวิธีแก้ไขอย่างไร

สำหรับนักการตลาดที่ใช้งาน Google Ad Manager เป็นเครื่องมือหลักในการทำงานแคมเปญโฆษณา คงจะเห็นอัปเดตใหม่ล่าสุดในช่วงต้นเดือนมิถุนายนจากกูเกิลกันมาแล้วบ้าง โดยรายละเอียดอัปเดตล่าสุดจากกูเกิลนี้จะมีการเปลี่ยนแปลงและปรับปรุงฟีเจอร์บางอย่าง พร้อมกับประกาศแผนอัปเดตเพิ่มเติมที่จะมาในอนาคต สำหรับใครที่อยากรู้รายละเอียดการเปลี่ยนแปลงนี้แบบลงลึกและรู้จริง ในบทความนี้ได้สรุปรายละเอียดต่างๆ ของทั้งฟีเจอร์ที่มีการเปลี่ยนแปลงพร้อมกับแผนการอัปเดตที่กำลังจะมาในอนาคต  Google Ad Manager มีอะไรอัปเดตใหม่บ้าง? สำหรับการอัปเดตใหม่ในครั้งนี้ของ Google Ad Manager มาพร้อมกับการปรับปรุงและเปลี่ยนแปลง 4 ส่วนสำคัญ ดังนี้ 1. Manage

ใครที่กำลังเริ่มต้นทำเว็บไซต์ E-Commerce คงคุ้นเคยกับหน้า Landing Page หรือบางคนนิยมเรียกว่าหน้า Sales Page โดยหน้า Landing Page นี้มีเป้าหมายที่จะช่วยสร้าง Lead เพื่อกระตุ้นยอดขายสินค้าหรือบริการ พูดง่ายๆ หากคุณเปิดร้านขายของ Landgind Page ก็เปรียบเสมือนกับหน้าร้านที่ต้องช่วยสร้างแรงดึงดูดลูกค้าที่เดินผ่านไปมาให้รู้สึกสนใจ  ดังนั้นถ้าหน้า Landing Page ถูกออกแบบอย่างพิถีพิถันให้มีความสวยงาม น่าเชื่อถือ และมีความดึงดูดที่มากพอก็จะช่วยกระตุ้นยอดขายสินค้าหรือบริการของเว็บไซต์

กระบวนการการวัดผลเป็นหนึ่งในขั้นตอนการทำ SEO ที่นักการตลาดควรให้ความสำคัญเป็นลำดับต้นๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากเป็นการทำ SEO ในระดับองค์กรที่ต้องใช้งบประมาณ บุคลากร และเวลาอย่างมหาศาล ดังนั้นการทำ SEO ในระดับองค์กร์ส่วนใหญ่จึงต้องมีขั้นตอนวัดผลเพื่อดูว่าสิ่งที่ลงทุนลงแรงไปนั้นได้ผลตอบรับที่กลับมาอย่างคุ้มค่าที่จะทำต่อหรือไม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับสถานการณ์โลกในปัจุบันที่มีทั้งวิกฤตโรคระบาด ปัญหาความขัดแย้งระหว่างประเทศ ทำให้เกิดวิกฤตเศรษฐกิจที่เป็นปัญหาบานปลายไปทั่วโลก หลายองค์กรที่มีแผนการตลาดดิจิทัลก็ต้องพับโปรเจคไป หลายบริษัทต้องหันมารัดเข็มขัดเพื่อไม่ให้งบประมาณถูกใช้ไปอย่างเปล่าประโยชน์ ฉะนั้นในบทความนี้จึงได้สรุป 9 Metrics หรือ 9 ตัวชี้วัดสำคัญๆ ที่นักการตลาดจำเป็นต้องรู้สำหรับการทำ SEO ในระดับองค์กรมาฝากกัน

หลายคนคงเคยได้ยินคำพูดที่ว่า “ไม่ว่าจะพูดจะบอก จะซื้อจะขาย ก็ต้องอีเมลเอาไว้ก่อน” จริงๆ แล้วอีเมลเครื่องมอสื่อสารที่ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อแทนที่จดหมาย โดยแทบทุกองค์กรจะต้องมีอีเมลเป็นเครื่องมือพื้นฐานในการสื่อสารทางธุรกิจ แม้ว่าในปี 2022 อาจจะมีคนที่คิดว่าอีเมลนั้นตายไปแล้ว เนื่องจากการมาถึงของแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียอย่างเต็มรูปแบบ แต่เชื่อเถอะว่าประสิทธิภาพของอีเมลในสมัยก่อนเป็นอย่างไรวันนี้ก็ยังคงเป็นเช่นนั้น หนึ่งในวิธีที่นักการตลาดรุ่นใหม่หลายคนมักมองข้ามคือการทำ Email Marketing หรือ “การตลาดผ่านอีเมล” ในสมัยก่อนหากธุรกิจต้องการติดต่อสื่อสารเพื่อทำการตลาดหรือขยายฐานลูกค้า ทางเดียวที่ทำได้คือการโทรติดต่อสื่อสารแบบดั้งเดิม แต่เมื่ออีเมลถือกำเนิดขึ้น เทคนิคในการทำการตลาดก็เริ่มเปลี่ยนไป การหวังผลบางอย่างจากการส่งอีเมลเป็นเรื่องที่แทบทุกองค์กรต้องการ ไม่ว่าจะเพื่อการสร้างยอดขาย การโปรโมตสินค้าใหม่ การจัดกิจกรรมโปรโมชัน